อันเนื่องมาจากไฟล์พลุวันปีใหม่จากกล้อง Blackmagic Ursa Mini Pro 12K จากพี่ห่าน
ไฟล์ 12K DCI BRAW Q3 25P ความยาวเกือบ 5 นาที ขนาดไฟล์ทั้งหมด 300 M กว่าๆ
ข้อดีของการถ่ายใหญ่แล้วมาย่อลง คือ ได้คุณภาพของภาพมากขึ้นเมื่อนำมาย่อเป็นขนาด 2K หรือ HD แล้วไฟล์ยังคงสภาพดีอยู่มาก เกรดสีง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องจะทำให้ภาพดูแตกหรือมีเกรนเท่าไหร่
ข้อเสีย อย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดก็คือกินความจุ HDD มาก อาจจะเรนเดอร์นานกว่าไฟล์ที่ขนาดเล็กกว่าอีกนิดหน่อย
My DP friend gave me a file of the New Year firework, from Blackmagic URSA Mini Pro 12K/ 12K DCI BRAW Q3 25P, 5 min. length approximately. File size around 300 M.
The good things of bigger size of footage is the better quality the images when scale down to 2K or HD size. Easy to do the colour grading no need to worry too much about the grainy things.
Very big file size is the only things to worry about. You need to have large HDD space to keep the original files. Oh, one other things is the machine need to scale down the file when delivered, this may take more time.
เริ่มต้นตั้งค่าโปรเจกต์ (Project Setting)
โปรเจกต์นี้ถ่ายมาด้วยไฟล์ 12K แต่ตอนที่มาถึงการทำงานจริงๆ ถ้าเป็นงานคอนเทนต์ YouTube หรือโซเชียลคอนเทนต์อื่นๆ สามารถตั้งค่าการทำงานเป็น HD ได้ เพื่อไม่เป็นการให้เครื่องของเราทำงานหนักจนเกินไป
เมื่อเกรดสีเสร็จ หากต้องการให้เครื่องใช้ทำงานบนความละเอียดที่มากที่สุดจริงๆ ก็ค่อยมาเปลี่ยน Timeline Resolution ให้ใหญ่ขึ้นอีกครั้งได้
เนื่องจากไฟล์ชิ้นนี้พี่ห่านถ่ายมาที่ 25 fps. แต่ค่าตั้งต้นของโปรแกรมจะตั้งไว้ที่ 24 fps.ดังนั้นต้องไม่ลืมเปลี่ยน Timeline frame rate และ Playback frame rate ให้ตรงกับฟุตเทจที่ต้องการใช้ก่อน
ถึง DaVinci Resolve 17 นี้อาจจะถามและแก้โปรเจกต์เฟรมเรตให้เราอีกทีตอนดึงไฟล์เข้าโปรเจกต์ก็เถอะ แต่การตั้งค่าการทำงานให้ถูกต้องตั้งแต่แรกจะเป็นเรื่องดีกว่า
This is a 12K size original footage project. If your jobs will deliver to YouTube or social content, you can set up the project as HD on Timeline resolution in the Project Setting for not let your computer machine works too hard.
If you really want to export out bigger size than HD, you can change the Timeline resolution to the size you want again.
Do not forget that the default Timeline frame rate of the DaVinci Resolve is 24fps., please reset it if your footage was shoot in other frame rate. Though it will be ask you for some change when you put the files into Media Pool but I think make it correct the the first setup is the best way of work.
ปกติแล้ว Color Management ใน Project Settings จะตั้งค่า Color Science ไว้ที่ DaVinci YRGB และ Timeline Color Space ตั้งไว้ที่ Rec.709 (Scene) ซึ่งเป็นคัลเลอร์สเปซที่สามารถใช้ได้เลยสำหรับงานทั่วไป หรือถ้าต้องการใช้คัลเลอร์สเปซอื่นที่แตกต่างออกไปก็สามารถเลือกได้ตามความต้องการ
เนื่องจากวิธีการนี้เป็นการตั้งค่าคัลเลอร์สเปซบนไทม์ไลน์ที่ใช้เลย การจะเปลี่ยนใช้คัลเลอร์สเปซเมื่อทำงานไปแล้ว หรือเพื่อเอาต์พุตไปใช้กับอุปกรณ์อื่นๆ อาจจะทำให้สีที่ทำไว้คลาดเคลื่อนได้
จึงไม่แนะนำให้เปลี่ยนคัลเลอร์สเปซหลังจากที่ทำงานไปแล้ว
Normally, the default Color Management setup will set Color Science at "DaVinci YRGB" and the Timeline color space at "Rec.709 (Scene). It's the standard workflow you do not to worry about if you do not need any extra colour space or you can choose some that fit to your job.
This set up is set on the Timeline color space, so, I do not recommend to change the colour space when you already in the middle of the job or you will need to recheck everything you have done before again.
ยังมี Color Science อีกตัวที่มีความยืดหยุ่นมากกว่า DaVinci YRGB นั่นคือ DaVinci YRGB Color Managed ซึ่งจะมี Resolve color management preset ไว้ให้เลือกค่าตั้งต้นการทำงาน และ Output color space สำหรับเลือกการส่งออกงาน ช่วยให้มีตัวเลือกในการทำงานมากขึ้น และแน่นอน ค่าตั้งต้นที่ให้ไว้ก็คือ SDR Rec.709 สำหรับงานมาตรฐานทั่วไป
There is another kind of Color Science that is more flexible than the DaVinci YRGB.
It is the "DaVinci YRGB Color Manage" that gave you more choice of the Resolve color Management for your work and the Output color space is for your delivery job and "Yes" the default color preset is "SDR Rec.709" for standard broadcast job.
ในโปรเจกต์พลุปีใหม่นี้ ต้องการทดลองใช้คัลเลอร์สเปซพรีเซ็ตตัวใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในเวอร์ชัน 17 ดังนั้นจึงเลือก DaVinci Wide Gamut เป็นตัวใช้งานในช่อง Resolve color management preset
Output color space เป็นตัวช่วยให้สามารถส่งออกงานได้หลากหลายมากขึ้นโดย แน่นอนค่าตั้งต้นของ Output color space คือ Rec.709 (Scene) เช่นกัน
เนื่องจากอ้อเป็นคนชอบทำงานบนคัลเลอร์สเปซ P3 เนื่องจากมีช่วงใช้งานละเอียดและกว้างกว่า Rec.709 จึงเลือก P3-DCI ใช้ทำงานกับฟุตเทจพลุปีใหม่นี้
I want to try the new Resolve color management preset coming with version 17, so, I choose the "DaVinci Wide Gamut" preset for this job.
Then, there are more choices for you to choose the Output color space that can change anytime on your workflow because it's not affect any of your Timeline color space. I am get use to the P3 color space because I am the DI grading people so I choose P3-DCI for this project.
เข้ามาสู่เรื่องเกรดสี/ Color Grading
แรกสุดของขั้นตอนการเกรดสีเลย ถ้าเราไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมงานตัดต่อหรือถ่ายทำ เราควรต้องเพลย์ภาพในไทม์ไลน์ทั้งหมดดูก่อนเพื่อให้เห็นงานทั้งหมดที่เราต้องทำ หากฟุตเทจนั้นมีการตัดต่อเป็นเรื่องราวแล้วก็อาจจะสามารถดูออฟไลน์คลิปก่อนได้เพื่อดู mood&tone และทำความเข้าใจงานก่อน รวมทั้งดูองค์ประกอบสีทั้งหมดในภาพและเซ็ตเพื่อการดีไซน์สีต่อไป
ส่ิงแรกที่เราต้องดูในขณะดูฟุตเทจก็คือ Scope mornitor ที่อยู่มุมขวาล่างของหน้า Color
(หรือหากไม่เห็น อาจจะต้องคลิกที่ไอคอนในวงกลมสีชมพูเพื่อเปิดการใช้งาน)
เพื่อดูสภาพแสงและสีของงาน สิ่งแรกที่ดูคือ Parade เพื่อดูน้ำหนักแสงของภาพและส่วนผสมของสีในภาพและทำการบาลานซ์
โดยให้น้ำหนักภาพในส่วนมืดอยู่ระหว่าง 0-128 และส่วนสว่างอยู่ระหว่าง 896-1023
เนื่องจากความสว่างของดอกไม้ไฟบางช่วงอาจจะสว่างมาก ให้ดูภาพรวมของงานว่าไม่เกิน แต่ส่วนที่สว่างจัดมากก็อาจจะปล่อยตามธรรมชาติได้นิดหน่อย
The first thing before start working with the project, you should take a look the whole in thing, image frame, overall colour in your timeline for better idea design mood&tone of your job.
Parade monitor is the first scope monitor to check your colour and lighting. (in the lower-right palette, middle icon)
The black should in between 0-128 value range and the white should be not over than 896-1023 range.
ทีนี้เรามาลองเล่น Color Warper กันบ้าง ฟังก็ชันนี้จะอยู่ในส่วนของ Secondaries ซึ่งอยู่ตรงกลางล่างของหน้า Color
ส่วนที่เห็นเป็นสีขาวตรงกลางกราฟรูปใยแมงมุม คือ ช่วงสีที่มีในภาพ จุดกึ่งกลาง คือ ส่วนที่ SAT หรือความอิ่มสีที่น้อยที่สุดและด้านนอกคือ SAT มาก
Now, time to play with the "Color Warper". This function will be in the lower-middle palette, the second icon from left hand side.
The centre of the spider web graph is the lowest SAT colour range and the outside will be higher SAT colour range.
การลาก ขึ้น - ลง จากจุดที่ต้องการใช้ คือ การเพิ่มหรือลดความอิ่มสี
การลาก ซ้าย - ขวา จากจุดที่ต้องการใช้ คือ การบิดแกนสีนั้นๆ หรือ Hue
อยากให้ทดลองเล่นกับฟุตเทจที่มีเพื่อให้เข้าใจแนวคิดของเครื่องมือตัวนี้
เนื่องจากงานนี้เป็นฟุตเทจเดียวยาวๆ ก็ต้องเพลย์เช็คเพื่อดูสีค่าอื่นๆ ด้วย
Drag the mouse up-down from the point is to increase or decrease the colour saturation.
Drag the mouse to right-left from its point is to change the colour Hue.
Try play around with your footage for more understanding with this function.
Due to this project has only one footage, I do need to play-check the whole things first to check overall footage.
ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องไม่ลืมเช็ค Vectorscope เพื่อดูความอิ่มสีด้วยว่าเยอะไปไหม ค่าความอิ่มที่เยอะที่สุดที่ควรใช้ ไม่ควรเกินกรอบสีเหลี่ยมที่บอกชื่อแม่สีของแต่ละสีนั้นๆ (วงกลมสีเหลือง)
Do not forget the Vectorscope for not make the Saturation over than the limited.
The signal should not goes further than the colour box (yellow circle)
ในการทำงานจริงๆ ก่อนที่จะมาถึงขั้นตอน secondaries การบาลานซ์ภาพที่ดีทั้งแสงและสีจะช่วยให้
ต่อยอดการทำงานงานได้ง่ายขึ้น และจะได้แก้ปัญหาน้อยกว่าการไม่บาลานซ์สี หรือบาลานซ์ไม่ตรงกัน
เสร็จแล้ว...ทีนี้เราก็มาดูคลิปที่ทำงานไปกันเลย
In the real world, good color balance is very important before using secondaries function.
Your jobs will be flow or complicate is depend on how good of your colour balance.
Then, let's see my firework job.
หากมีคำถามหรือฟุตเทจอะไรที่อยากให้ทำให้ดู ส่งมาแลกเปลี่ยนความคิดกันได้นะคะ
ขอให้มีความสุขกับการทำงานค่ะ
If you have any question or footage that you want the share the idea with me, I love to talk and share my thought with you.